วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รู้หรือไม่!! คีย์บอร์ดมีฟังก์ชันซ่อนอยู่ คีย์ลัด บนแป้นพิมพ์ แบบไม่ต้องใช้เม้าส์

รู้หรือไม่!! คีย์บอร์ดมีฟังก์ชันซ่อนอยู่ คีย์ลัด บนแป้นพิมพ์ แบบไม่ต้องใช้เม้าส์


รู้หรือไม่ว่า คีบอร์ดคอมพิวเตอร์ คีบอร์ดโน๊ตบุค มีคีย์ลัดแบบไม่ต้องใช้เม้าส์ซ่อนอยู่ หากบางทีเม้าส์ที่เราใช้งานอยู่อาจจะเสีย หรือใช้งานไม่ได้ คีย์ลัดบนคีบอร์ดสามารถช่วยคุณได้ ฟังก์ชันที่ใช้งานส่วนใหญ่ คนเราอาจใช้งานแค่ Ctrl + C, Ctrl + V ใช่ไหมหล่ะครับ แต่สิ่งที่เราจะนำเสอนมีมากกว่านั้น ไปดูกันครับว่ามีฟังก์ชันอะไรบ้าง

คีย์ลัด บนแป้นพิมพ์ แบบไม่ต้องใช้เม้าส์

  1. ต้องลุกจากโต๊ะทำงานเพื่อไปทำธุระอย่างอื่น ถ้าต้องการที่จะไม่ให้คนอื่นรู้เรื่องงานที่กำลังทำอยู่ในขณะนั้น ให้กด Windows กับกดตัว L พร้อมกัน เพียงแค่นี้ก็สามารถล็อคหน้าจอคอมได้แล้ว ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่ามีใครเห็น ความลับที่อยู่ในคอม
  1. ต้องการหาข้อมูลในคอมพิวเตอร์ คนปกติทั่วไปมักจะนึกถึง”คอมพิวเตอร์ของฉัน”แล้วก็เข้าไปค้นหาข้อมูลด้านใน แต่จริงๆแล้วแค่กด Windows กับกดตัว E พร้อมกัน ก็จะเปิดเข้าไปในการจัดการข้อมูลของคอมพิวเตอร์แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ก็จะค่อยๆหาจากรูปข้อมูล”คอมพิวเตอร์ของฉัน”
  1. ในบางครั้งกำลังแอบเล่นเกมส์หรืออ่านการ์ตูนอยู่ แล้วบังเอิญเจ้านายหรือเพื่อน เดินมาหาพอดี! ต้องการซ่อนหน้าจอโดนด่วนจะต้องทำยังไงนะ? ไม่ต้องเครียดไป! เพียงแค่กด Windows กับกดตัว D พร้อมกันก็สามารถซ่อนหน้าจอได้แล้ว
  1. ฟังก์ชันที่สุดยอดและไม่ยุ่งยาก คือ Windows กับกดตัว Tab พร้อมกันก็สามารถเห็นหน้าจอเป็นฟังก์ชั่น 3 มิติแล้ว
  1. Windows กับกดตัว R พร้อมกันก็สามารถเข้า osk ก็จะปรากฏแป้นพิมพ์เสมือนจริง ขึ้นมาบนหน้าจอ ก็สามารถใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอพิมพ์ได้เช่นกัน

  1. รูปเล็กเกินไปจะทำอย่างไร? แค่กด Windows กับสัญลักษณ์ + (บวก) พร้อมกัน ก็สามารถ ปรับรูปให้ใหญ่ขึ้นได้
  1. เปิดหลายๆหน้าจอพร้อมๆกัน ถ้ากด Ctrl+Tab ก็สามารถเก็บหน้าจอต่างๆมาไว้ด้านล่างได้ ถ้าต้องการปิดหน้าจอเพียงแค่กด Ctrl+w เท่านี้ก็เรียบร้อย

ปุ่มลัดของคีย์บอร์ดอื่นๆ :

  • Ctrl+S บันทึกเอกสาร
  • Ctrl+W ปิดหน้าที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
  • Ctrl+N สร้างเอกสารใหม่
  • Ctrl+O เปิดหน้าต่าง Open เพื่อเปิดไฟล์
  • Ctrl+Z ยกเลิกการทำงานก่อนหน้านี้ (Undo)
  • Ctrl+F หาข้อมูลในคอมพิวเตอร์
  • Ctrl+X ตัดข้อความหรือออบเจ็กต์ที่เลือกไว้
  • Ctrl+C ก๊อปปี้ข้อความหรือออบเจ็กต์ที่เลือกไว้
  • Ctrl+V วางข้อความหรือออบเจ๊กต์ที่เลือกไว้
  • Ctrl+A เลือกข้อความทั้งหมด
  • Ctrl+[ ขยายขนาดตัวหนังสือให้เล็กลง
  • Ctrl+] ขยายขนาดตัวหนังสือให้ใหญ่ขึ้น
  • Ctrl+B ทำข้อความเป็นตัวหนา
  • Ctrl+I ทำข้อความเป็นตัวเอียง
  • Ctrl+U  ขีดเส้นใต้ข้อความ
  • Ctrl+Shift สับเปลี่ยนโครงร่างข้อความสองทิศทาง
  • Ctrl+Home ไปที่จุดเริ่มต้นของเอกสาร
  • Ctrl+End ไปที่ส่วนท้ายของเอกสาร
  • Ctrl+Esc ไปที่ส่วนรายการหน้าหลัก
  • Ctrl+Shift+< ลดขนาดตัวอักษรของการเลือก
  • Ctrl+Shift+> เพิ่มขนาดตัวอักษรของการเลือก
  • Ctrl+F5 รีดาวน์โหลดหน้าจอในอินเตอร์เน็ต
  • Ctrl+Shift ทางลัด
  • Alt+ space +C ปิดหน้าจอ
  • Alt+ space +N สลับไปหน้าจอเล็ก
  • Alt+ space +R ซ่อนหน้าต่างลง
  • Alt+ space +X เพิ่มหน้าต่าง 
  • Alt+ space +M การโยกย้ายหน้าต่าง
  • Alt+ space +S  ปรับเปลี่ยนขนาดหน้าต่าง
  • Alt+Tab สลับระหว่างรายการที่เปิด
  • Alt+F เรียกเปิดรายการเอกสาร
  • Alt+V เรียกเปิดรายการรูป
  • Shift + Delete เป็นการลบบางส่วนที่เลือกไว้ แต่ไม่ได้ลบไปอยู่ในถังขยะ
  • เมื่อกดปุ่ม CTRL พร้อมเลื่อนเม้าส์ คือการก๊อปปี้ข้อความหรือออบเจ็กต์ที่เลือกไว้เพื่อวางอีกที่
  • เมื่อกดปุ่ม CTRL + SHIFT พร้อมเลื่อนเม้าส์ ขณะที่ลากรายการ สามารถสร้างทางลัดไปยังรายการที่เลือก
ขอบคุณ http://www.1000tipsit.com/

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

วิธี Backup ประวัติแชทไลน์ กู้คืนได้ ย้ายเครื่อง ลงแอปใหม่ ประวัติแชทไม่หาย!


การใช้ Line บางครั้งจะมีข้อมูลที่สำคัญที่เราอยากเก็บไว้ แต่มีเหตุจำเป็นด้วยความจำเครื่องไม่พอ หรือเกิดเหตุทำให้ต้องย้ายเครื่อง ลงแอปใหม่ วันนี้เลยจะมาแนะนำวิธีง่ายๆ ให้เราสามารถเก็บประวัติการแชทไว้ 
สำหรับทั้งระบบ ios และ android

สามารถคลิกเข้าชมวีดีโอได้



อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 
การสำรองข้อมูล (Back up) สำหรับ ios คลิก!!!
การสำรองข้อมูล (Back up) สำหรับ Android คลิก!!!

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

5 วิธีหารูปขั้นเซียนใน Google ที่คนทั่วไป ไม่เคยรู้!!!

1. อยากได้รูปขนาดไหน สามารถ Search ระบุขนาดรูปได้เลย
ให้ใส่ชื่อภาพ ในช่องค้นหาใน google  เว้นวรรค และระบุขนาดรูป ประโยชน์ เพื่อเราจะได้รูปขนาดตามต้องการเลย เพราะบางงาน เช่น เราต้องการใช้เป็นรูป wallpaper ก็ต้องใช้ภาพความละเอียดสูง
ขนาดรูป เช่น 1600x1200 1280x960 1024x768

ตัวอย่าง เช่น lion: 1920x1020


2. อยากค้นหารูปในอดีต ในยุคที่ต้องการ
ให้ใส่ชื่อภาพ ในช่องค้นหาใน google เว้นวรรค ตามด้วย ยุคปีค.ศ. เช่น 1960 ถึง 1980
ตัวอย่าง เช่น ชุดไทย 1900...1980


3. อยากค้นหารูป ในเว็บใดเว็บหนึ่งเท่านั้น
ในช่อง google พิมพ์คำว่า site: เว้นวรรค ตามด้วยชื่อเว็บที่ต้องการค้นหาภาพ
ตัวอย่าง เช่น site: www.dmc.tv

4. อยากหาภาพของ 2 อย่าง ในเวลาเดียวกัน
ในช่อง google พิมพ์ชื่อ เว้นวรรค แล้วใส่ OR และชื่ออีกชื่อหนึ่ง
ตัวอย่าง เช่น ช้าง OR ม้า

5. อยากสืบค้นข้อมูลจากรูป
ด้วยการกดที่รูปกล้อง  นำรูป มาใส่ในช่องค้นหาของ google ได้เลย หรือ อัพโหลดรูปได้เลย ไม่ว่าจะเป็นรูปที่เราถ่ายมาเอง หรือรูปจากเน็ตก็ได้
ประโยชน์ ค้นหารูปที่เรามี ว่าไปปรากฏในเว็บไหน ใช้ในการแกะรอยตามหาแหล่งที่มาได้ (เป็นฟีเจอร์ลับของนักสืบออนไลน์เลย) 
วิธีการ 
1. ค้น google คำว่า ค้นรูป เลือกเว็บแรก
2. กดที่รูปกล้อง 
3. วาง URL ของรูป จะอัพโหลด หรือลากรูปใส่ในช่องได้เลย

4. เว็บจะค้นหาให้อัตโนมัติว่าภาพของเราปรากฏในเว็บใดบ้าง



สามารถดูคลิป VDO ประกอบได้

นี่ก็เป็น 5 ขั้นตอนง่ายๆ ที่เราจะสามารถค้นภาพใน google อย่างมีประสิทธิภาพและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างดีที่สุด

ขอบคุณเนื้อหาจาก รายการ cee me again

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ทำอย่างไร!!!เมื่อลืมออกจากระบบ Facebook ตอนที่ไปเล่นเครื่องอื่น



Facebook

ระบบ Social media ที่ไม่มีใครไม่รู้จักและใช้เป็นประจำเมื่อเปิดคอม หรือโทรศัพท์มือถือก็ว่าได้  ซึ่งบางครั้ง เราอาจไม่ได้เล่น Facebook ในอุปกรณ์ส่วนตัวของเราเสมอไป เช่น ไปเล่นในร้านอินเทอร์เน็ตค่าเฟ่ เล่นคอมพิวเตอร์ส่วนกลางในที่ทำงาน หรือยืมใช้อุปกรณ์สื่อสารของคนอื่นก็ตามที 

ในส่วนใหญ่ เรามักจะลืม log out หรือออกจากระบบเครื่องนั้นๆ ทำให้เป็นกังวลว่า แล้วคนที่ใช้เครื่องถัดไปจากเราจะรู้ข้อมูลส่วนตัวของเรา จะนำไปใช้โพสต์แกล้งคนอื่น หรือใช้ในทางที่ไม่ดี ทำให้เราเสียหาย ผิดกฏหมาย หรือเสียทรัพย์ได้หรือเปล่า


แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะมีวิธีง่ายๆ สำหรับคนขี้ลืมโดยเฉพาะ สามารถรู้ได้ว่า Facebook ในชื่อของเราล็อกอินอยู่ที่ไหน เข้าโดยอุปกรณ์ใด และสามารถ "ออกจากระบบ" ผ่านคอมเครื่องอื่นได้เลย ด้วยขั้นตอนง่ายมากๆ ดังนี้

สามารถทำในคอมพิวเตอร์ 

1. กดเข้าปุ่มเมนู มุมบนขวา เครื่องหมายสามเหลี่ยม และกดที่ตั้งค่า (Setting)

2. กดที่ "ความปลอดภัย (Security)"

 3. ในเมนูสถานที่ที่คุณเข้าสู่ระบบ (Where You're Logged In)  กดคำว่า "แก้ไข (Edit)"
 4. จะปรากฏให้เห็นลิสต์ที่เราเข้าสู่ระบบแล้วยังไม่ได้ออก และช่วงเวลา หากเราไม่แน่ใจว่าจะเลือกให้อันไหนออกจากระบบ ก็กดที่ "สิ้นสุดกิจกรรมทั้งหมด(End All Activity)" ก็เป็นการออกจากระบบของทุกเครื่องที่ได้ log in ในชื่อของเราแล้ว  


"เพียงเท่านี้ ก็สามารถออกจากระบบได้แล้ว 
และไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยที่จะมีคนมาแอบใช้ Facebook ที่เราใช้ทิ้งไว้อีกต่อไป"

ขอบคุณข้อมูลจาก www.itclickme.com

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

10 Tips ดีๆ ที่ทำให้แบตเตอรี่มือถือใช้งานได้ยาวนานขึ้น

1. เรียนรู้ระบบต่างๆในสมาร์ทโฟนที่ใช้อยู่
สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน จะมีระบบสำหรับประหยัดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น โหมดประหยัดพลังงาน หรือ Power Saving Mode ซึ่งจะช่วยลดในการทำงานของตัวเครื่อง ลดความสว่างของหน้าจอ ปิดการใช้แอพที่ทำงานพื้นหลัง และเปลี่ยนหน้าโฮมสกรีนเป็นสีขาวดำ เป็นต้น



2. ตั้งโหมดปรับความสว่างหน้าจอเอง โดยไม่
ต้องใช้ระบบปรับความสว่างอัตโนมัติ
เรามักจะให้โทรศัพท์ปรับความสว่างหน้าจอเองอัตโนมัติ แต่โดยส่วนมากมักจะถูกปรับให้สว่างเกิน ทางที่ดีที่สุด เราก็ควรปรับความสว่างหน้าจอเอง เพื่อถนอมสายตา และประหยัดแบตเตอรี่ไปในตัว


3. ตั้งเวลาพักหน้าจอให้เร็วขึ้น
ปกติหลายๆ คนก็จะตั้งไว้ที่ 1 นาที หรือ 2 นาที ซึ่งเราสามารถไปตั้งให้เหลือแค่ 15 – 30 วินาทีได้ 
โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า-การแสดงผล/หน้าจอ-สลีป 

 
4. เปลี่ยนพื้นหลังโทรศัพท์มือถือเป็นสีดำ 
จะใช้กับพื้นหลังโทรศัพท์ หรือจะใช้กับแอพ Line ก็ได้ 


5. ปิดระบบต่างๆเมื่อไม่ได้ใช้
เช่น GPS Wi-Fi Bluetooth เพราะถ้าไม่ได้ใช้ เปิดไว้จะกินพลังงานโดยไม่จำเป็น

6. ใช้โหมดเครื่องบิน/Airplane mode 
แม้จะไม่ได้ขึ้นเครื่องบินก็ตามเช่น เวลานั่งสมาธิ ถ้าปิดเสียงอย่างเดียวเครื่องก็ยังทำงานอยู่ แต่โหมดนี้จะปิดระบบต่างๆให้ เมื่อเราใช้ เช่น ปิดสัญญาณโทรเข้า - ออก ปิดเน็ต ปิด Wi-fi



7. ปิดระบบ ซิงค์ (sync) อัตโนมัติ



8. อัพเดต(Update) แอพต่างๆ ให้เป็นระบบ
ล่าสุดอยู่เสมอ
แอพนั้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่กินพลังงานแบตเตอรี่ โดยถ้าเวลามีอัพเดทแอพนั้น นักพัฒนามักจะแก้ไขบั๊กและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานซึ่งบางแอพก็จะรวมถึงการใช้พลังงานแบตเตอรี่ด้วย โดยสามารถไปตั้ง auto-update ได้ใน Google Play Store

9. ติดตั้งแอพช่วยประหยัดพลังงาน
ยกตัวอย่าง แอพอยู่หนึ่งตัวชื่อว่า Greenify จะช่วยระบุแอพทึ่ไม่มีการใช้งานก็จะเข้าสู่การไฮเบอร์เนตหรือพักไว้ชั่วคราวเมื่อไม่มีการใช้งานเพื่อลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ของแอพนั้นๆ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store


10. วิธีที่นิยมกันในปัจจุบัน คือพกแบตสำรองไว้
เสมอ ในยามฉุกเฉิน
แบตสำรองปัจจุบันก็มีหลายความจุ หลายยี่ห้อ หลายราคา สามารถเลือกซื้อได้ตามความพอใจ

ที่มา www.beartai.com

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

โทรฟรี หรือวีดีโอคอล ผ่าน Line!!! ขั้นตอนง่ายๆช่วยประหยัดค่าโทร


โทรฟรี หรือวีดีโอคอล ผ่าน Line

การโทรหรือวีดีโอคอลสามารถทำผ่าน Line คล้ายกับการโทรศัพท์ปกติ เพียงแค่มือถือของเราต่ออินเทอร์เน็ตอยู่เท่านั้น ทำได้ง่ายไม่กี่ขั้นตอน

ข้อดี     คือ  1.  ไม่เสียค่าใช้จ่าย
                    2.  ไม่ต้องมีเบอร์โทรศัพท์ ก็สามารถโทรติดต่อได้ 
                         เพียงแค่เป็นเพื่อนกันใน Line แม้จะอยู่คนละประเทศ                                   ก็ตาม
    
ข้อเสีย คือ  1.  โทรศัพท์ต้องต่ออินเทอร์เน็ตอยู่
                    2.  ถ้าอินเทอร์เน็ตไม่แรง หรืออยู่ในที่ไม่มีสัญญาณ 
                         การโทรอาจขาดหายไปบ้าง


วิธีการ คือ
1. เข้ามาที่หน้าแชทของเพื่อน 
2. แตะที่มุมขวาบนของหน้า เพื่อเปิดเมนูขึ้นมา
 3. สามารถเลือกได้ ว่าจะโทรฟรี (Free Call) เหมือนการโทรปกติ หรือ วีดีโอคอล(Video Call) เป็นการโทรแบบเห็นหน้ากันได้
 4. ตัวอย่างหน้าการโทรฟรี
5. ตัวอย่างการวีดีโอคอล

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

รู้ไหม ทำไมเน็ตช้า แก้ไขได้อย่างไรบ้าง???

กองพลจักรพรรดิ์หัตถ์สวรรค์ 

                        นอกจากที่จะมีหัวใจกัลยาณมิตร มีปัญญาที่คอยชี้แจงความจริงแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยคืออุปกรณ์ในการสร้างบารมี คือ โทรศัพท์มือถือ ของเราเอง แต่ถ้าหากมือถือเกิดช้า เน็ตช้า ไม่เหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ ต้องแก้ไขอย่างไร วันนี้มาดูวิธีการกันค่ะ

สาเหตุที่เน็ตช้าหลักๆมีอยู่ 2 สาเหตุ คือ 

1. โทรศัพท์มือถือ เช่น รุ่น สเปก ใช้งานมานานมาก ใช้ความจำเยอะเกิน ถ่ายรูป วีดีโอไว้ไม่เคยลบ ลงแอพพลิเคชั่นมากมายแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ฯลฯ
2. การใช้สัญญาณเน็ต อยู่ในที่ชุมชนที่คนใช้เน็ตพร้อมๆกัน ความเร็วเน็ตต่ำ 

วิธีง่ายๆให้มือถือเร็วขึ้น 


1. Update Firmware หรือเวอร์ชั่นของแอนดรอยด์ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยแนะนำให้ทำผ่าน Wi-fi เท่านั้น
วิธีการ 
    - 1) เข้าไปที่ Setting(ตั้งค่า) 
    - 2) เลือก"About phone(เกี่ยวกับโทรศัพท์)" 
    - 3) เลือก"System update(การอัพเดตระบบ)" 

2. ลง Application(แอพพลิเคชั่น) ช่วยล้างข้อมูลเก่าๆหรือขยะ ออกจากมือถือ เช่น Auto task killer


3. ลบApplication(แอพพลิเคชั่น)ที่ไม่จำเป็นออก อันไหนไม่ได้ใช้ ก็ไม่จำเป็นต้องเอาไว้ให้หนักเครื่อง จะใช้ค่อยดาวน์โหลดใหม่ ใช้เวลาไม่นาน 

- แต่ละเครื่อง การลบ App ใช้วิธีแตกต่างกัน เช่น
หรือ

4. ปิดโทรศัพท์ หรือ รีสตาร์ทโทรศัพท์บ้าง โทรศัพท์มือถือก็เหมือนคอมพิวเตอร์ ใช้งานก็ต้องปิดพักเครื่องบ้าง ทำให้ระบบเสถียรขึ้น หากทำได้ทุกวันจะดีมาก เช่น ปิดก่อนนอน เปิดเมื่อตื่นนอน 


5. ตรวจสอบข้อมูลในระบบ รูปภาพ VDO หากมีมากเกินไป ให้หมั่นลบ หรือย้ายข้อมูลไว้ใน SD Card หรือคอมพิวเตอร์ได้


6. ลบข้อมูลใน Line เพราะปกติเราจะใช้แอพนี้ในการสื่อสารมากที่สุด ทั้งข้อความ ภาพ VDO ซึ่งกินพื้นที่ความจำในมือถือมากเช่นกัน ดูวิธี การลบข้อมูลใน Line คลิกเลย!


7. ปิด App ที่เปิดค้างไว้ และปิดหน้าอินเทอร์เน็ตที่เปิดค้างไว้ ไม่ให้เครื่องทำงานหนัก ช่วยเพิ่มความเร็วให้เครื่อง (โทรศัพท์แต่ละเครื่องอาจใช้วิธีการไม่เหมือนกัน แต่ไม่ต่างกันมากนัก)
 -  ปิด App ที่เปิดค้างไว้



- ปิดหน้าอินเทอร์เน็ตที่เปิดค้างไว้ 


วิธีง่ายๆให้อินเทอร์เน็ตเร็วขึ้น

1. หลีกเลี่ยงการใช้ในที่ชุมชน จะดึงสัญญาณโทรศัพท์กัน เพราะต่างคนก็ต่างใช้ ทำให้ความเร็วเน็ตช้าลงได้

2. ซื้อแพ็คเก็จอินเทอร์เน็ตจากค่ายมือถือเพิ่มเติม


3. ใช้ Wi-fi แทนอินเทอร์เน็ตส่วนตัว หากมี


ลองใช้วิธีง่ายๆเหล่านี้กับโทรศัพท์มือถือดูนะคะ 
แล้วจะรู้ว่าโทรศัพท์เราสามารถเร็วแรงได้
หมือนตอนซื้อมาใหม่ๆเลย