สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน จะมีระบบสำหรับประหยัดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น โหมดประหยัดพลังงาน หรือ Power Saving Mode ซึ่งจะช่วยลดในการทำงานของตัวเครื่อง ลดความสว่างของหน้าจอ ปิดการใช้แอพที่ทำงานพื้นหลัง และเปลี่ยนหน้าโฮมสกรีนเป็นสีขาวดำ เป็นต้น
2. ตั้งโหมดปรับความสว่างหน้าจอเอง โดยไม่
ต้องใช้ระบบปรับความสว่างอัตโนมัติ
เรามักจะให้โทรศัพท์ปรับความสว่างหน้าจอเองอัตโนมัติ แต่โดยส่วนมากมักจะถูกปรับให้สว่างเกิน ทางที่ดีที่สุด เราก็ควรปรับความสว่างหน้าจอเอง เพื่อถนอมสายตา และประหยัดแบตเตอรี่ไปในตัว
3. ตั้งเวลาพักหน้าจอให้เร็วขึ้น
ปกติหลายๆ คนก็จะตั้งไว้ที่ 1 นาที หรือ 2 นาที ซึ่งเราสามารถไปตั้งให้เหลือแค่ 15 – 30 วินาทีได้
โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า-การแสดงผล/หน้าจอ-สลีป
4. เปลี่ยนพื้นหลังโทรศัพท์มือถือเป็นสีดำ
จะใช้กับพื้นหลังโทรศัพท์ หรือจะใช้กับแอพ Line ก็ได้
5. ปิดระบบต่างๆเมื่อไม่ได้ใช้
เช่น GPS Wi-Fi Bluetooth เพราะถ้าไม่ได้ใช้ เปิดไว้จะกินพลังงานโดยไม่จำเป็น
6. ใช้โหมดเครื่องบิน/Airplane mode
แม้จะไม่ได้ขึ้นเครื่องบินก็ตามเช่น เวลานั่งสมาธิ ถ้าปิดเสียงอย่างเดียวเครื่องก็ยังทำงานอยู่ แต่โหมดนี้จะปิดระบบต่างๆให้ เมื่อเราใช้ เช่น ปิดสัญญาณโทรเข้า - ออก ปิดเน็ต ปิด Wi-fi
7. ปิดระบบ ซิงค์ (sync) อัตโนมัติ
8. อัพเดต(Update) แอพต่างๆ ให้เป็นระบบ
ล่าสุดอยู่เสมอ
แอพนั้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่กินพลังงานแบตเตอรี่ โดยถ้าเวลามีอัพเดทแอพนั้น นักพัฒนามักจะแก้ไขบั๊กและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานซึ่งบางแอพก็จะรวมถึงการใช้พลังงานแบตเตอรี่ด้วย โดยสามารถไปตั้ง auto-update ได้ใน Google Play Store
9. ติดตั้งแอพช่วยประหยัดพลังงาน
ยกตัวอย่าง แอพอยู่หนึ่งตัวชื่อว่า Greenify จะช่วยระบุแอพทึ่ไม่มีการใช้งานก็จะเข้าสู่การไฮเบอร์เนตหรือพักไว้ชั่วคราวเมื่อไม่มีการใช้งานเพื่อลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ของแอพนั้นๆ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store
10. วิธีที่นิยมกันในปัจจุบัน คือพกแบตสำรองไว้
เสมอ ในยามฉุกเฉิน
แบตสำรองปัจจุบันก็มีหลายความจุ หลายยี่ห้อ หลายราคา สามารถเลือกซื้อได้ตามความพอใจ
ที่มา www.beartai.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น